Monday 30 June 2008

Sanitary

ใครจะรู้ว่าในชีวิตของผมผมก็เคยใช้ผ้าอนามัยด้วยนะ


ใช่แล้วผ้าอนามัยสำหรับผู้หญิงเนี่ยะแหละ เป็นความรู้สึกแปลกที่นึกถึงทีไรก็แปลกอยู่ดี


จะแบบแถบกาว แบบมีปีก รวมไปถึงแบบห่วง ผมใช้มาจนคล่อง เพราะว่าผมต้องใช้อยู่ประมาณเดือนนึงหลังจากการเข้ารับการผ่าตัด


ผ่าตัดอะไร อะไร???????


ไม่บอก อิอิอิ


เอาเป็นว่าผลจากการผ่าตัดในครั้งนั้น ผมต้องนั่งนอนทำไรไม่ได้นานเกือบเดือน และต้องใช้ผ้าอนามัยหมดไปหลายแพ็ค


ก็เลยแค่อยากบอกให้รู้


ว่าผู้ชายคนนี้ ครั้งหนึ่งเคยพึ่งผ้าอนามัยเหมือนกัน

Thursday 12 June 2008

Mump

วันนี้อารมณ์ดีเลยมีเวลานั่งคิดถึงเรื่องสมัยเด็กมากมาย สิ่งหนึ่งที่คิดถึงก็คือกีฬาที่เล่นในวัยเด็ก กีฬาอีกอย่างที่ผมเล่นเป็นประจำก็คือกีฬา "เป่ากบ"


วิธีการเป่ากบก็ง่ายแสนง่ายมีอุปกรณ์แค่หนังยางวงใหญ่ 2 เส้น หาซื้อหรือจะขอจากเพื่อนผู้หญิงที่มีก็ได้ เพราะผู้หญิงมักมีเยอะเพื่อใช้ถักหนังยางสำหรับกระโดดอยู่แล้ว สถานที่ไม่จำกัดขอให้เป็นที่ราบเรียบๆ เช่นโต๊ะเรียนนั่นแหละเหมาะเหม็ง











วิธีการเล่นก็ง่ายแค่ฝึกเลือกลักษณะหนังยาง การคำนวณระยะทาง การปล่อยลมออก สังเกตการเข้ากินฝ่ายตรงข้าม ต้องเปิดปากเป่า เพื่อให้หนังยางกระโดด ไปกินฝ่ายตรงข้าม เมื่อถึงตาเราเป่า

ผู้แพ้ก็ต้องเสียหนังยางหนึ่งเส้นให้กับผู้ชนะทุกทีไป ผมเริ่มจากกการที่ขอหนังยางจากพี่ตามสเต็ปเดิม แล้วก็แข่งจนได้หนังยางเป็นกระบุงเลย แต่เข้าอีหรอบเดิม คือหนังยางอันตธานหายไปหมดแล้ว

เล่ามาถึงตอบนี้คงจะไม่อาจไม่กล่าวถึงกีฬาอีกอย่างที่เป็นที่ป๊อปปูลาร์ คือการเขี่ยรูปลอก อิอิ หลายคนคงจำได้ อุปกรณ์คล้ายๆเป่ากบ แต่เปลี่ยนเป็นรูปลอก แล้วสองฝ่ายผลัดกันเขี่ยให้รูปลอกมากินกัน คือ หน้าทับหลัง หรือหลังทับหน้า ใครชนะก็ได้รูปลอกนั้นไป โอ๊ย นึกถึงแล้วมีฟามสุข.........................


แล้ว.....................ไอ้ที่เล่ามันไม่ได้เกี่ยวกับหัวข้อเลย แต่ที่เกี่ยวคือสมัยนั้นเขามักเชื่อกันว่าเวลาเป่ากบมากๆแล้วจะทำให้เป็นโรคคางทูม พอดีเล่าแล้วสนุกเลยเลยเถิดไปกันใหญ่


Mump ตามหัวข้อ คือ โรคคางทูม ไอ้โรคคางทูม อาการอักเสบของต่อมน้ำลาย ถ้าเป็นในเด็กสาเหตุที่พบบ่อยก็คือคางทูม ซึ่งเป็นการติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ปกติสามารถหายเองได้ ลักษณะอาการที่อาจจะพบร่วมด้วยได้ก็คือ มีอาการปวดเสียวมากขึ้นเวลาที่ต่อมน้ำลายทำงาน เช่นเมื่อลิ้นรับรสเปรี้ยว เป็นต้น


แต่สมัยนั้นวิธีการรักษาก็คือการเขียนเสือ อิอิ ฟังไม่ผิดครับ การเขียนเสือ คือการเอาพู่กันจีนจุ่มหมึกดำแล้วเขียนคำว่าเสือในภาษาจีนไว้ที่แก้มข้างที่เป็นคางทูม ต้องทิ้งไว้หลายวันด้วย



แล้วผมจะรอดเหรอ นึกถึงเรื่องคางทูมทีไป เป็นต้องนึกถึงภาพผมตอนเป็นคางทูมและมีการเขียนเสือไว้ที่แก้ม เวลาไปโรงเรียนใครเห็นก็เป็นที่รู้กันเลยว่าผมเป็นคางทูมอีกแระ



สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องปกติสำหรับเด็กผู้ชายในสมัยก่อน ลองมาทำตอนนี้สิ รับรองแค่ก้าวออกจากบ้าน สายตาทุกคู่เป็นได้จับจ้องมาให้อายกันเป็นแน่แท้

Dolls

Dolls ในที่นี้หาได้หมายถึงตุ๊กตาสาวสวยของบรรดาเด็กหญิงแต่อย่างใด แต่ Dolls ในที่นี้หมายถึง "ตุ๊กตุ่น" ใช่แล้วครับ ตุ๊กตุ่น หลายคนอาจลืมชื่อนี้ไปแล้ว แต่พอดีเมื่อเช้านี้ขณะขับรถมาคิดเพลินๆ ถึงบรรดาของเล่นของผมในวัยเด็ก กีฬาทอยเส้น เป็นกีฬาสุดฮิตของเด็กชายสมัยนั้น



วิธีเล่นนั้นก็ง่ายแสนง่าย อุปกรณ์การเล่มมีเพียงแค่มีตุ๊กตุ่นและถ่านหุงข้าวสำหรับขีดเส้นเท่านั้นก็พอ ขีดเส้นที่ยืน และเส้นที่ปลายทางสำหรับโยนตุ๊กตุ่นไปให้ใกล้เส้นมากที่สุดเป็นพอก็ชนะแล้ว รางวัลสำหรับผู้ชนะก็คือตุ๊กตุ่นหนึ่งตัวจากผู้แพ้



เห็นไหม ง่ายๆ ดังนั้นผมมักจะเริ่มจากการหาตุ๊กตุ่นเป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเอง ไม่ว่าจากการซื้อ 3 ตัวบาทในสมัยนั้น หรือง่ายๆ ขอตุ๊กตุ่นของพี่มาทำทุน แล้วหาเพิ่มจากสังเวียน อิอิ..



ผมเริ่มวิธีการสะสมตุ๊กตุ่นจากการแข่งขัน วิธีการ value added ของเซียนทอยเส้นตุ๊กตุ่นก็จะเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการพยายามสร้างน้ำหนักให้ตุ๊กตุ่นเพื่อไม่ให้กระดอนไกลจากเส้นที่ลง ไม่ว่าจะเอาหนังยางมารัดทั่วตัว หรือเอาลวดหรือลวดทองแดงมาพันตามแขน ขา หรือลำตัวของบรรดาไอ้มดแดง มดเอ็กซ์ หน้ากากเสือทั้งหลาย



ผมสะสมตุ๊กตุ่นได้เยอะพอควร ก่อนจะถึงการอวสานเมื่อแม่เห็นว่าผมโตขึ้น และมันก็รกแล้วก็เอาไปแจกจ่ายให้คนอื่นๆ จนหมด จึงเป็นการอวสานของบรรดาตุ๊กตุ่นของผม

Thief

เมื่อเช้าขณะขับรถมาทำงาน นั่งฟังรายการวิทยุ ประเด็นว่าคุณเคยขโมยอะไรในวัยเด็ก ก็พาให้ฉุกคิดถึงชีวิตในวัยเด็กของตัวเอง

ในชีวิตของผมตั้งแต่เด็ก เคยเจตนาเป็นขโมยซะหลายครั้ง แต่ที่จำได้ติดใจเลยก็คือ...

หลายคนคงรู้จักโรคปากนกกระจอกกันบ้างนะครับ เป็นแผลที่มุมปากไง ตามความเชื่อแล้วคนที่เป็นโรคปากนกกระจอก วิธีรักษาตามความเชื่อก็คือต้องไปขโมยน้ำตาลปี๊บกินแล้วจะหาย

ดังนั้นปฏิบัติการโฉดจึงเริ่มขึ้นทุกครั้งที่ผมเป็นปากนกกระจอก ผมมักแอบไปร้านขายของชำแถวบ้าน แล้วเอานิ้วไปป้ายน้ำตามปี๊บจากปี๊บมากิน แรกๆ ก็กล้าๆ กลัวๆ.....ไปๆ มาๆ ชักติดใจแอบควักกินทุกครั้งเรื่อยไป เพราะอร่อยดี

นี่นั่นแหละครับการเป็นขโมยที่จดจำได้ดีในวัยเด็ก

แล้วเพื่อนๆ ล่ะเคยเป็นขโมยกันบ้างป่ะ